ซากุระ (ญี่ปุ่น : 桜, 櫻) เป็นชื่อสามัญของพืชหลายชนิดจำพวกเชอร์รีในสกุล Prunus อาทิ P. jamasakura, P. serrulata เป็นต้น มีถิ่นกำเนิดในจีนตอนใต้, เกาะไต้หวัน, หมู่เกาะโอกินาวะ และหมู่เกาะญี่ปุ่น มีดอกสีขาว กลีบแต่ละกลีบมีจำนวนแตกต่างกันไปตามชนิด ลักษณะเด่นของซากุระก็คือ เมื่อร่วง จะร่วงพร้อมกันหมด ซากูระจึงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นทหารและวิถีความเป็นบูชิโดของญี่ปุ่น
คำว่า “ซากุระ” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นเชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า “ซากุยะ” (咲耶; หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเทพธิดา “โคโนฮานาซากูยาฮิเม” (木花之開耶姫) ในเทพปกรณัมของญี่ปุ่น มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สำหรับพระนามของเทพธิดาองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่า “เจ้าหญิงดอกไม้บาน” และเนื่องจากซากูระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากูระนั่นเอง เทพธิดาองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ดอกเก๊กฮวย (ดอกเบญจมาศ) เป็นดอกไม้ประจำชาติ
เอาหล่ะ หลังจากรู้ประวัติกันมาพอสังเขป แอดมินจะไปพาไปชมสถานที่สุดฮอตในการชมดอกซากุระ ที่ประเทศญี่ปุ่น กันเลยจ้า
1. สวนไดโนเสาร์ ซากุระจิมะ (Sakurajima Dinosaur Park)
ที่ตั้ง : Kagoshima
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน
การเดินทาง : โดยเรือเฟอรี่ซากุระจิมะ จากท่าเรือคะโงะชิมะฮงโค (ใกล้สถานีรถไฟ JR คะโงะชิมะ) 15 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : เป็นสวนสาธารณะบนภูเขาไฟ “ซากุระจิมะ” ซึ่งลอยอยู่ในอ่าว “คิงโค” ห่างจากฝั่งตัวเมือง คะโงะชิมะ 4 กิโลเมตร “ซากุระจิมะ” เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ปัจจุบันยังคงมีควันลอยออกมาจากปล่องอยู่เสมอ เมื่อต้นซากุระจำนวน 3,000 ต้นของที่นี่ผลิดอก ผู้คนจำนวนไม่น้อย จะเดินทางมาเพื่อนั่งชมดอกซากุระ บนสนามหญ้าของสวนสาธารณะแห่งนี้ นอกจากนั้นภายในสวนยังมีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ 7 ชนิด ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่เด็กๆ ต่างชื่นชอบ
2. บริเวณปราสาท คุมะโมะโตะ (Kumamoto Castle)
ที่ตั้ง : Kumamoto
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสทางจาก สถานี JR คุมะโมะโตะ 15 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็ก 200 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ปราสาทคุมะโมะโตะ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน เป็นหนึ่งในสามปราสาท ที่มีแนวรั้วกำแพงหินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูชมดอกซากุระ จะเปิดให้เข้าชมในเวลากลางคืนด้วย จึงสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระยามราตรี หากท่านได้เดินชมตัวปราสาทที่ฉาบแสงไฟ และดอกซากุระยามราตรี ไปตามถนนที่ประดับด้วยโคมไฟแล้ว ท่านจะได้ลิ้มรสกับความสุขที่ยากจะหา ใดเปรียบเชิญรับชมภาพของ “ปราสาทคุมะโมะโตะ” ได้ทาง
https://www.jnto.go.jp/eng/spot/castles/kumamoto.html
3. สะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge)
ที่ตั้ง : Yamaguchi
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานีรถไฟ JR อิวะกุนิ 15 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 150 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : สะพาน “คินไตเคียว” เป็นสะพานที่มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น งานเทศกาลชมดอกซากุระแห่งสะพาน “คินไตเคียว” จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงฤดูชมดอกซากุระยามค่ำคืนจะมีการประดับแสงไฟด้วย กิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือ การล่องเรือชมสะพาน “คินไตเคียว” และดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
4. สวนสาธารณะ ทสุรุยะมะ (Tsuruyama Koen)
ที่ตั้ง : Okayama
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR ทสึยะมะ 10 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 210 เยน / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ในอดีตสวนสาธารณะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ ปราสาท “ทสุยะมะ” ปัจจุบันยังคงเหลือแนวกำแพงหินที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชม หลายคนกล่าวว่า ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุด ในแถบภาคตะวันตกของญี่ปุ่นในแต่ละปีเมื่อถึงฤดู
5. สวนสาธารณะ ชิโรยะมะ (Shiroyama Koen)
ที่ตั้ง : Ehime
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : ลงรถไฟสาย อิโยะเท็ตสึโด ที่สถานีไคโคโต แล้วต่อรถกระเช้าขึ้นไปอีก 3 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : นอกจากจังหวัดเอะฮิมะจะเป็นที่รู้จักในเรื่อง บ่อน้ำพุร้อน “โดโงะ” แล้ว ดอกซากุระของปราสาท “มะทสุยะมะ” มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามด้วย ในงานเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิของมะทสุยะมะนอกจากท่านจะได้ชมดอกซากุระแล้ว ยังจะได้ชมการจำลองจัดขบวนทัพของเหล่านักรบ ที่มีชื่อว่า “ไดเมียวเกียวเร็ตทจึ” และการแข่งขันเล่น “ยาคิวเค็ง” ระดับประเทศด้วย
6. ปราสาท ฮิเมะจิ (Himeji Castle)
ที่ตั้ง : Hyogo
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR ฮิเมจิ 15 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : วัด “โฮริวหยิ” ที่นาราและปราสาท “ฮิเมะจิ” แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.1993 ภายในตัวปราสาทนอกจากจะมีทรัพย์สมบัติของชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าเก็บรักษาอยู่แล้ว ยังมีตำนานและเรื่องเล่าหลงเหลืออยู่อีกมากมาย ปราสาท “ฮิเมะจิ” ถูกขนานนามว่า เป็นปราสาทมีความงดงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานชมซากุระ มีการบรรเลงเครื่องดนตรีโกโตะ (จะเข้ญี่ปุ่น) และกลองไทโคะด้วย
7. โรงกษาปณ์ เมืองโอซาก้า (Osaka Mint Bureau.)
ที่ตั้ง : Osaka
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : กลางเดือนเมษายน (เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเพียงหนึ่งสัปดาห์)
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดินเทมมาบาชิ 10 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : เนื่องจากบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาในโรงกษาปณ์ เพื่อชื่นชมความงามของดอกซากุระตามทางเดินริมน้ำ ที่มีชื่อว่า “ซากุระโนะโทโอรินุเคะ” ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ในหนึ่งปีเท่านั้น จึงทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาถึงปีละล้านกว่าคน ที่พลาดไม่ได้คือ การเดินผ่านถนนที่มีดอกซากุระปกคลุมอยู่ด้านบนเต็มไปหมด คล้ายกับกำลังเดินผ่านอุโมงค์ดอกซากุระ ในยามค่ำคืนก็จะมีการประดับไฟอย่างงดงาม ท่านสามารถเข้าชมได้จนถึงเวลา 3 ทุ่ม
8. สวนนิชิโนะมะรุเทเอ็งปราสาทโอซาก้า (Nishi No Maru Teien Park)
ที่ตั้ง : Osaka
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน ทานิมาจิยนโจเมะ 15 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : สวนนี้ตั้งอยู่ภายในอาณาเขตของปราสาทโอซาก้า ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว ภายในสวนมีซากุระกว่า 600 ต้น เมื่อเข้าสู่ฤดูชมดอกซากุระ ที่นี่จะคับคั่งไปด้วยบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่หอบลูกจูงหลานมาเที่ยว เฉพาะในช่วงฤดูชมซากุระเท่านั้น ที่จะมีการประดับโคมไฟกระดาษกว่า 200 อัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมปราสาทโอซาก้า และดอกซากุระในยามค่ำคืนได้
9. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera)
ที่ตั้ง : Kyoto
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานีรถไฟ JR เกียวโต ลงที่ป้าย คิโยมิสึ แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : วัด “คิโยมิสึ” เป็นสัญลักษณ์ของ “เกียวโต” เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อราว 1,200 ปีก่อนปัจจุบัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในฤดูชมซากุระกลีบดอกจากต้นซากุระที่มีอยู่กว่า 1,000 ต้น ในวัดแห่งนี้จะโปรยปรายลงมาอย่างสวยงาม ในช่วงที่ดอกซากุระบานทางวัดจะประดับไฟยามค่ำคืนเป็นเวลา 1 เดือน ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงาม ของ “ลานคิโยมิสึบุโด” และ “หอ 3 ชั้น” ที่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกซากุระ
10. ภูเขา โยชิโนะ (Mt. Yoshino)
ที่ตั้ง : Nara
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – ปลายเมษายน
การเดินทาง : ใกล้สถานีรถไฟ โยชิโนะ (รถไฟคินเท็ตสึ สายโยชิโนะ)
ข้อมูลน่ารู้ : ที่นี่มีต้นซากุระอยู่ถึง 30,000 ต้น มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังมีซากุระมากถึง 200 สายพันธุ์ ทำให้สามารถชื่นชมดอกซากุระ ได้ตลอดเดือนเมษายน พื้นที่บนภูเขานั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน แต่ละส่วน จะมีช่วงที่ดอกซากุระบานไม่พร้อมกัน ของฝากที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ขนมที่มีส่วนผสมของดอกและใบซากุระ
11. สวนเค็นโรขุเอ็ง (Kenrokuen Garden)
ที่ตั้ง : Ishikawa
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานีรถไฟ JR คานาซาว่า 10 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : สวน “เค็นโรกุเอน” เป็นหนึ่งในสามสวนที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ภายในมีต้นซากุระ 420 ต้น เมื่อถึงเวลาที่ดอกซากุระบานเต็มที่จะงดงามมาก นับว่าเป็นฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ดอกซากุระบาน จะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระขึ้น ซึ่งสามารถเข้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู ทั้งยังสามารถชมดอกซากุระยามราตรีได้อีกด้วย “เค็นโรขุเอ็งคิขุซากุระ” ซึ่งเป็นดอกซากุระหายาก ที่มีกลีบมากถึง 300 กลีบ ของที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
12. ชิระกะวะโก (Shirakawago)
ที่ตั้ง : Gifu
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเมษายน – ต้นพฤษภาคม
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานีรถไฟ JR ทะคะยะมะ 90 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : หมู่บ้าน “ชิระกะวะโก” ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาจังหวัดกิฟุ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ในประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก เพราะมีสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่ชื่อว่า “กัตโชทจึคุริ” ซึ่งหมายถึง การสร้างหลังคาบ้านลาดลงคล้ายหน้าจั่ว เพื่อให้ทนทานต่อหิมะและลมในฤดูหนาว แม้ว่าจะมีต้นซากุระอยู่ไม่มากนัก แต่ที่นี่ท่านจะได้ชมความงามของ “ชิดาเระซากุระ” ที่มีกิ่งย้อยลงด้านล่างและ “โอโอตะซากุระ” ซึ่งเป็นซากุระที่มีกลีบซ้อนกันถึง 90 กลีบ และมีเกสรตัวเมียมากถึง 15-20 อัน เชิญรับชมภาพของ “ชิระกะวะโก” ได้ทางเว็บไซต์ http://shirakawa-go.org
13. สวนผลไม้ โทโงขุซัง (Togokusan Fruits Park)
ที่ตั้ง : Nagoya
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR โคโชจิ 25 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : ที่นี่มีต้น “ชิดาเระซากุระ” อยู่ถึง 1,000 ต้น ในเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกชิดาเระซากุระ แต่ไม่ใช่แค่ดอกซากุระเท่านั้น ที่นี่ท่านจะได้ชมต้นผลไม้นานาชนิด สมกับชื่อสวนในช่วงเวลาเดียวกับที่ซากุระผลิดอก ท่านจะได้เห็นดอกของแอ๊ปเปิ้ลสาลี่ และท้อที่บานในเวลาเดียวกัน
14. คะวะซุซากุระ (Kawazu Sakura)
ที่ตั้ง : Shizuoka
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นกุมภาพันธ์ – ปลายกุมภาพันธ์
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากสถานีรถไฟ คะวะซุ ประมาณ 6 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : ซากุระของที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากผลิดอกเร็วที่สุดในเกาะฮอนชู ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานยาวนานถึง 1 เดือน ซากุระที่นี่เริ่มผลิดอกตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่ได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิในเมือง “คะวะซุ” จะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระนานถึง 1 เดือน ซึ่ง “คะวะซุซากุระ” ของที่นี่จะมีสีชมพูเข้มกว่า “โชเมอิโยชิโนะ” เนื่องจากที่นี่มีน้ำพุร้อนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงอยากแนะนำให้ไปเที่ยวน้ำพุร้อนควบคู่กันไปด้วยเชิญรับชมภาพของ “คะวะซุซากุระ” ได้ทางเว็บไซต์
www.kawazu-onsen.com/thai/
www.kawazuzakura.net/
15. ชมซากุระพร้อมภูเขาไฟฟูจิ
ที่ตั้ง : Yamanashi
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : กลางเมษายน – ปลายเมษายน
การเดินทาง : โดยรถยนต์จากสถานีรถไฟ ฟูจิซัง 10 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : ท่านสามารถชมดอกซากุระบนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีซากุระพันธุ์ “ฟูจิซากุระ” ปลูกอยู่ถึง 2 หมื่นต้น “ฟูจิซากุระ” มีอีกชื่อว่า “มาเมะซากุระ” หรือ “โอโตเมะซากุระ” เป็นซากุระที่มีลำต้นและดอกขนาดเล็กดูน่ารัก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกฟูจิซากุระขึ้น
16. สวนสาธารณะ ทากาโทโฮโจชิ (Takato Joshi Koen)
ที่ตั้ง : Nagano
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – กลางเมษายน
การเดินทาง : ขึ้นรถบัส จากสถานีรถไฟ JR อินะชิ 25 นาที
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็ก 250 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : เมื่อถึงฤดูที่ดอกซากุระผลิบาน สวนสาธารณะแห่งนี้จะจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระขึ้น ประมาณ 1 เดือน ในช่วงเวลาดังกล่าว ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระยามราตรีได้ถึงเวลา 5 ทุ่ม ซากุระที่ มีชื่อเสียงมากของที่นี่คือ ซากุระพันธ์หายากที่ชื่อว่า “ทาคาโทโอโคอิงังซากุระ” ซึ่งมีอยู่ถึง 1,500 ต้น ดอกของซากุระพันธุ์นี้จะมีขนาดเล็กและมีสีเข้มกว่า “โชเมอิโยชิโนะ” หากมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่ ไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปตรงสะพาน “โออุงเคียว”
17. หุบเขา นะงะโทโระ (Nagatoro)
ที่ตั้ง : Saitama
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเมษายน – ปลายเมษายน
การเดินทาง : ใกล้สถานีรถไฟ นะงะโทโระ (รถไฟจิจิบุเท็ตจึโด)
ข้อมูลน่ารู้ : หุบเขา “นะงะโทโระ” อยู่ห่างจากโตเกียวทางรถยนต์ราว 2 ชั่วโมง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติงดงามตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูที่ดอกซากุระผลิบาน เนื่องจากมีซากุระปลูกอยู่เต็มไปหมดเกือบ 3,000 ต้น บรรยากาศของเมืองทั้งเมืองจึงเหมือนกับงานเทศกาลชมดอกซากุระ แต่ที่แนะนำเป็นพิเศษคือ ช่วงระยะทาง 4 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟ นะงะโทโระ เลียบริมแม่น้ำ “อะระงะวะ” ไปจนถึงสะพาน “ทากาชาโงะบาชิ” ซึ่งมีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่สองข้างทางเป็นจำนวนถึง 600 ต้น จนดูเหมือนเป็นอุโมงค์ซากุระ
18. แม่น้ำ เมงุโระงะวะ (Megurogawa)
ที่ตั้ง : Tokyo
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ อิเคจิริโอโออาชิ (รถไฟสายโตคิวเต็นเอ็งโทชิ) 10 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : แม่น้ำ “เมงุโระงะวะ” เป็นแม่น้ำที่ไหลลงสู่อ่าวโตเกียว มีความยาวราว 8 กิโลเมตร ทางเดินเลียบริมแม่น้ำส่วนหนึ่งระยะทาง 3.8 กิโลเมตร มีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ถึง 830 ต้น เมื่อถึงฤดูที่ดอกซากุระผลิบาน บริเวณดังกล่าวมักจะกลายเป็นสถานที่นัดพบของคู่รัก ในยามค่ำคืนจะมีการประดับไฟ ทำให้สามารถเกินชมดอกซากุระยามราตรีได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ “ไดกังยะมะ” แหล่งแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากวัยรุ่นญี่ปุ่น ซึ่งคงจะเป็นที่ถูกใจผู้ชื่นชอบแฟชั่นเป็นแน่
19. สวนสาธารณะ อุเอะโนะ (Ueno Koen)
ที่ตั้ง : Tokyo
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR อุเอะโนะ 1 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นสถานที่เลื่องชื่อในการชมดอกซากุระมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เนื่องจากเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดที่ชาวโตเกียวสามารถมาชมซากุระได้ ปัจจุบัน
สวนสาธารณะแห่งนี้ จึงยังคงเป็นที่รักของชาวเมืองโตเกียวอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย เมื่อถึงเทศกาลชมดอกซากุระวันที่แน่นขนัดมากๆ มีคนมาชมซากุระถึง 2 แสน 4 หมื่นคน สวนสาธารณะแห่งนี้หาง่าย แม้แต่ชาวต่างชาติก็สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก
20. จิโดริงาฟูจิ (Chidorigafuchi)
ที่ตั้ง : Tokyo
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน คุดันชิตะ 3 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : อยู่ใกล้กับพระราชวังอิมพีเรียลและ “นิฮอนบุโดคัน” แม้จะมีต้นซากุระไม่มากนักเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่ด้วยความสวยงามที่ไม่รองใคร วันที่แน่นขนัดมากๆจะมีคนมาชมถึง 6 หมื่นคน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระจะมีการประดับไฟ ภาพซากุระยามราตรีที่สะท้อนแสงไฟสีฟ้าขาว กระทบลงบนแผ่นน้ำหน้าพระราชวังอิมพีเรียล เป็นภาพที่น่าประทับใจไม่อาจลืม หากเช่าเรือล่องไปตามทางน้ำของพระราชวังชมดอกซากุระ ก็จะโรแมนติกไม่น้อย
21. หมู่บ้านซามูไร คะกุโนะดเตะ (Samurai Village of Kakunodate)
ที่ตั้ง : Akita
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : กลางเมษายน – ปลายเมษายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR คะคุโนดาเทะ 20 นาที
ค่าผ่านประตู : ฟรี (มีเฉพาะบ้านพักซามูไรบางหลังที่เก็บค่าเข้าชม 300-500 เยน)
ข้อมูลน่ารู้ : ที่ “คะกุโนะดะเตะ” มีหมู่บ้านซามูไรอยู่ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ซากุระที่เลื่องชื่อของที่นี่คือ “ชิดะเระซากุระ” ภาพของ “ชิดะเระซากุระ” ที่ผลิดอกอยู่ในหมู่บ้านซามูไรเก่าแก่ ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในฉากหนึ่งของภาพยนต์ ซึ่งที่จริงแล้วที่นี่ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนต์อยู่เนืองๆ ต้นซากุระส่วนใหญ่ของที่นี่ปลูกมาตั้งแต่สมัยก่อน บางต้นมีอายุมากกว่า 300 ปีหากได้เดินอยู่ในหมู่บ้านซามูไร ท่ามกลางกลีบดอกซากุระที่โปรยปรายลงมา คงจะรู้สึกเหมือนได้เป็นซามูไรกับเขาด้วย
22. บริเวณรอบปราสาท ฮิโระซะกิ (Hirosaki Castle)
ที่ตั้ง : Aomori
ช่วงเวลาชมดอกซะกุระ : ปลายเมษายน – ต้นพฤษภาคม
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR ฮิโระซะกิ 15 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : มีผู้คนเดินทางมาร่วมเทศกาลชมดอกซะกุระของปราสาท “ฮิโระซะกิ” กันล้นหลามมากถึงปีละ 2 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2005 มีถึง 2,500,000 คน งานเทศกาลของที่นี่เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม สาเหตุที่ได้รับความนิยมมากป็นเพราะ ความงดงามของภาพดอกซากุระ ปราสาท และภูเขา “อิวะกิ” นอกจาก “โชเมอิโยชิโนะ” แล้วยังมีซากุระพันธุ์อื่นๆ เช่น “ชิดาเระซากุระ” และ “ยาเอะซากุระ” ให้ได้ชมกันด้วย
23. สวนสาธารณะ โกเรียวคะคุ (Goryokaku Koen)
ที่ตั้ง : Hokkaido
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเมษายน – ต้นพฤษภาคม
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ โกเรียวคะคุโคเอ็งมาเอะ (รถไฟฮะโกะดะเตะชิเต็น) 15 นาที
ข้อมูลน่ารู้ : ที่นี่เป็นที่แรกในญี่ปุ่นที่มีการสร้างปราสาทสไตล์ยุโรป ทั้งยังเป็นสมรภูมิรบในสงคราม “ฮะโกะดะเตะ” ซึ่งเป็นสงครามภายในครั้งสุดท้าย ลักษณะเด่นของที่นี่คือ หากมองจากข้างบนลงมาจะเห็นเป็นรูปร่างคล้ายดวงดาว ภาพซากุระที่สะท้อนบนผิวน้ำในคูรอบโกเรียวคาคุนั้น มีความงดงามมากใกล้ๆยังมีหอคอย “โกเรียวคาคุ” ที่สามารถชื่นชมภาพทิวทัศน์ซากุระจากด้านบนได้
24. สวนสาธารณะ มะทสุมะเอะ (Matsumae Koen)
ที่ตั้ง : Hokkaido
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเมษายน-ปลายพฤษภาคม
การเดินทาง : โดยรถยนต์จากตัวเมือง ฮะโกะดะเตะ 2 ชั่วโมง
ข้อมูลน่ารู้ : ที่นี่มีซากุระมากถึง 250 พันธุ์ แต่ที่มีมากที่สุดคือ “ยะเอะซากุระ” ซึ่งมีอยู่ถึง 10,000 ต้น ดอกซากุระแต่ละชนิดจะค่อยๆเบ่งบานตามลำดับ ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนทำให้สามารถชมดอกซากุระได้ตลอด 1 เดือนเต็ม ยิ่งไปกว่านั้น ที่ฮอกไกโดดอกซากุระและดอกบ๊วยจะบานพร้อมกัน ท่านจึงสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกบ๊วยและดอกทสึบากิที่ศาลเจ้า “มะทสุมะเอะ” ภายในสวนได้ด้วย เทศกาลชมดอกซากุระของที่นี่เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนเมษายนที่ปราสาท “มะทสุมะเอะ” จะมีการประดับไฟยามค่ำคืน ทำให้สามารถชื่นชมดอกซากุระยามราตรีได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.jnto.or.th